ผมเชื่อว่านายจ้างหลายท่าน ก็มักจะเจอเหตุการณ์ที่ลูกจ้างลงเวลาแทนกัน ซึ่งโดยส่วนมาก มักจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังนี้ครับ

เหตุการณ์สมมติ

ตอนเช้าในขณะที่พนักงานกำลังต่อแถวกันตอกบัตร A และ B ต่อแถวเพื่อตอกบัตรเข้างานอยู่ด้วยกัน แต่แถวเคลื่อนตัวช้ามาก A เห็นว่าจริง ๆ เราก็เท่ากับว่ามาถึงที่ทำงานแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ไปซื้อข้าวเลยดีกว่า

A : แถวยาวขนาดนี้ เราขอออกไปซื้อหมูปิ้งหน้าออฟฟิศก่อนนะ 

B : โอเค ไม่มีปัญหา

สรุป เข้างานในเวลางานปกติ 9 โมง ทันทั้ง A และ B ส่วนเวลาที่ A กลับเข้ามาทำงาน คือ 09:02 น.

จากเหตุการณ์ข้างต้น สิ่งที่ HR หรือ นายจ้างต้องแยกประเด็นคือ ให้ดูที่ข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร และข้อเท็จจริงนั้นเข้าข่ายทุจริตเป็นความผิดร้ายแรงจริงหรือไม่ เข้ามาตรา 119 ที่ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามอายุงานกรณีเลิกจ้างรึป่าว

ซึ่งการตอกบัตรหรือลงเวลาแทนกัน จากตัวอย่างนายจ้างจะนำมาเป็นเหตุเลิกจ้างได้นั้น จะต้องเป็นกรณีที่ลูกจ้าง “ไม่ได้อยู่ทำงานจริง” แต่ให้บุคคลอื่นตอกบัตรแทน หรือลงเวลาในการปฏิบัติงานแทน ซึ่งถือเป็นการลงเวลาทำงานเป็นเท็จ เป็นการทุจริต เพราะนายจ้างต้องจ่ายค่าจ้าง แต่ลูกจ้างไม่ทำงานตอบแทน จึงเป็นการประพฤติชั่ว หรือโกง

        ในทางกลับกัน ถ้าลูกจ้างอยู่ทำงาน แต่แอบไปซื้อหมูปิ้งอยู่หน้าสถานประกอบกิจการ จึงได้ขอให้เพื่อนร่วมงาน หรือบุคคลอื่นช่วยตอกบัตรลงเวลาให้ กรณีนี้แม้จะผิดระเบียบแต่ไม่ใช่กรณีร้ายแรง (ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5450/2534) เพราะไม่ถือว่าลูกจ้างทุจริต กล่าวคือ ลูกจ้างมาทำงานแล้ว

        แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นลูกจ้างก็มีความผิดฐานฝ่าฝืนระเบียบของนายจ้าง หากนายจ้างจะเอามาเป็นเหตุในการเลิกจ้างก็ต้องจ่ายค่าชดเชยตามอายุงานกรณีเลิกจ้าง หรือศาลอาจพิพากษาให้รับกลับเข้าทำงาน เพราะเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม

ดังนั้นในกรณีนี้สิ่งที่บริษัทควรทำคือ บริษัทควรออกหนังสือตักเตือนพนักงานทั้ง 2 คนว่า ห้ามรูดบัตรลงเวลาแทนกันอีก ถ้ารูดบัตรแทนกันอีก บริษัทจะเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชย เพราะบริษัทได้เคยตักเตือนในเรื่องนี้ไว้แล้ว แล้วถ้าพบว่ามีการฝ่าฝืนผิดซ้ำคำเตือนนี้อีก บริษัทก็สามารถเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย

แล้วแบบไหนที่บริษัทสามารถเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยในกรณีที่พนักงานลงเวลาแทนกันโดยเข้าข่ายทุจริต ?

เช่นบริษัทสั่งให้  A ทำงานล่วงเวลาตั้งแต่ 17.00-22.00 น. แต่พอถึงเวลาทำโอที A กลับแวบไปดูหนังกับแฟนแล้วก็กลับบ้านไปเลยโดยไม่ได้มาทำโอที แล้วฝากบัตรให้ B ช่วยรูดบัตรแทนให้ด้วย แล้วเอาค่าโอทีมาแบ่งกัน อย่างนี้เข้าข่ายทุจริต เพราะรับเงินค่าโอทีของบริษัทไปแล้ว แต่ไม่ได้ทำงานให้บริษัทจริง แถมยังเอาเงินค่าโอทีมาติดสินบนเพื่อนให้รูดบัตรกลับบ้านแทนเสียอีก พฤติการณ์แบบนี้จะเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ และบริษัทสามารถเลิกจ้างทั้ง 2 คนได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามอายุงาน

Facebook fanpage : GeeHRM Line@ : 640vtamj Tiktok : GeeHRM Website: GeeHRM