Phone

Line

Wechat

Hide

10 วิธีแก้อาการเบื่องานมีอะไรบ้าง

by | Jan 13, 2023 | Uncategorized

เรามาดูวิธี “แก้อาการเบื่องาน” กัน เราเชื่อว่ามนุษย์เงินเดือนทุกคนย่อมเคยผ่านอาการนี้มาแล้วทั้งสิ้น กับอาการที่เรียกว่า “เบื่องาน” พอใกล้ถึงวันจันทร์ทีไรกลับรู้สึกหดหู่และเบื่อหน่าย แต่พอถึงวันศุกร์หรือช่วงใกล้วันหยุดนักขัตฤกษ์กลับมีความกระดี๊กระด๊าขึ้นมาอย่างทันตาเห็น จริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนและไม่ใช่สิ่งผิดปกติแต่อย่างใด

แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถหาวิธีปรับตัวหรือแก้ไข เพื่อให้เราใช้ชีวิตกับงานที่เรารักได้อย่างมีความสุขตลอด 5 วัน/สัปดาห์ ก่อนที่อาการเบื่องานที่ว่านี้จะลุกลามกลายเป็นคำว่า Burn Out ไปในที่สุด เพราะฉะนั้นว่าดูกันดีกว่า ว่าวิธีแก้อาการเบื่องานที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ จะมีอะไรบ้าง รีบไปอ่านกันโดยพลัน ก่อนจะสายเกินแก้ไข

แก้อาการเบื่องาน

10 วิธีแก้อาการเบื่องาน สำหรับคนกำลังหมดไฟ

1. ค้นหาต้นตอที่เป็นสาเหตุของการเบื่องาน
ทุกครั้งที่เราพบเจอกับปัญหาอะไรก็ตาม สิ่งแรกที่ควรทำคือ หาสาเหตุของปัญหานั้นให้เจอก่อนว่า มันคืออะไรกันแน่ เฉกเช่นเดียวกันกับอาการเบื่องาน เมื่อเรารู้สึกเซ็งกับงานทุกวันนี้เต็มแก่ อยากลาออกให้รู้แล้วรู้รอด ก็ต้องสาเหตุของมันเช่นเดียวกัน ว่าเป็นเพราะอะไรกันนะ สิ่งสำคัญในการหาสาเหตุก็คือ ควรมองให้รอบด้าน ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ อย่าใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง และคิดว่าสิ่งอื่นๆ แย่เสมอไป จนลืมมองกลับมาที่ตัวเอง เพราะบางครั้งสาเหตุในการเบื่องานที่แท้จริงแล้ว อาจมาจากตัวเราเองก็เป็นได้ เมื่อพบเจอต้นตอของปัญหาเป็นที่เรียบร้อย ค่อยดำเนินการหาวิธีแก้ไขเป็นลำดับต่อไป

2. ไม่ยอมแพ้และเลือกที่จะสู้
คนทำงานหลายคนเลือกที่จะยอมแพ้ต่อปัญหาง่าย ๆ ไม่สแวงหาความท้าทายที่จะทำให้ก้าวหน้า เพราะรู้สึกว่าทางมันชันและเส้นทางที่จะไปนั้นลำบากเหลือเกิน อีกทั้งยังไม่อยากรับผิดชอบงานอื่น ๆ เพิ่มเติม ซึ่งการยอมแพ้หรือไม่ทำอะไรเลยเป็นสิ่งที่อันตรายต่อการทำงานมาก เพราะมันจะทำลายความเป็นมืออาชีพของเรา บางคนอาจจะต้องเจอกับแรงกดดันต่าง ๆ ที่คอยบั่นทอนความหวัง จนเลิกคว้าโอกาส มีเพื่อนร่วมงานที่มองเราเป็นคู่แข่ง หรือมีหัวหน้างานที่คอยจับผิดอยู่ทุกเวลา สถานการณ์แบบนี้ย่อมสร้างความลำบากให้ชีวิตการทำงาน ซึ่งสิ่งที่เราพอทำได้นั่นก็คือตั้งใจทำงานในส่วนของเราให้เต็มที่ โดยให้ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากงานเป็นสิ่งที่พิสูจน์ตัวเรา

3. มองมุมกลับ ปรับมุมมอง
บางครั้งการวิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ก็ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันเสมอไป แต่เราควรนำประเด็นนี้มาใช้แก้ปัญหาในบางเรื่องเช่นเดียวกัน เพราะการสร้างทัศนคติในเชิงบวกหรือการมองโลกในแง่ดี ก็สามารถช่วยได้ เพราะจริงๆ แล้ว การที่คนเราต้องทำอะไรซ้ำๆ เดิมๆ ทุกวันเป็นนาน ย่อมก่อให้เกิดอาการเบื่อแน่นอน แล้วยิ่งถ้าเราไปหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่ว่าทำไป ก็จะมีแต่เบื่อขึ้นเรื่อยๆ ความคิดนั้นก็จะบั่นทอนให้เรามีความสุขในการทำงานที่ลดลงไปอีก เพราะฉะนั้นเราควรมองมุมกลับ ปรับมุมมอง ให้ลองหาข้อดีอื่นๆ ในงานที่ทำอยู่ หรือลองหาสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ในออฟฟิศของเรา เช่น การมีเพื่อนร่วมงานที่ดี, การมีหัวหน้าที่เข้าใจและซัพพอร์ตเรา, สวัสดิการออฟฟิศสุดปัง, การเดินทางมาทำงานแสนสบาย ฯลฯ เพียงแค่เราหาจุดบวก ก็สามารถเกิดแรงจูงใจใหม่ๆ ให้เราอยากตื่นขึ้นมาทำงานได้มากขึ้นแล้ว

4. ไม่เปรียบเทียบกับใคร
การเปรียบเทียบหรือการถูกเปรียบเทียบนั้นเป็นเรื่องที่เราทุกคนมักต้องเจอ ซึ่งหลายครั้งเราก็มักเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นอยู่ในใจ หากเปรียบเทียบเพื่อเป็นแรงผลักดัน เพื่อพัฒนาตัวเองไปสู่ความสำเร็จก็เป็นเรื่องที่ดี แต่หากการชื่นชมเปลี่ยนเป็นการเปรียบเทียบจนเราท้อแท้ และเอาแต่คิดว่าตัวเองไม่มีมีทางที่จะเก่งเท่าเขา มันจะหันกลับมาบั่นทอนจิตใจตัวเอง และคอยกดความรู้สึกเราไว้ว่ายังไงเราก็ไม่สามารถเป็นคน ๆ นั้นได้ และหยุดพัฒนาตัวเองไปในที่สุด

5. เปลี่ยนสไตล์การทำงาน หรือ เปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน
วิธีต่อมาคือลองปรับเปลี่ยนสไตล์การทำงานของตัวเองดูบ้าง เช่น ถ้าปกติคุณเป็นคนที่ทำงานแบบมีระเบียบแบบแผน ทุกอย่างต้องเป๊ะตามตาราง ลองปรับด้วยการเพิ่มความยืดหยุ่นลงไปบ้าง เพื่อจะได้ไม่กดดันตัวเองจนเกินไป หรือหากมองกลับกัน หากคุณเป็นคนที่ทำงานแบบชิลจนเกินไป จนขาดการวางแผนที่ดี ก็ลองหันมาจริงจังด้วยการจัดตารางงานใหม่ วางแผนลำดับความสำคัญแบบเป็นขั้นเป็นตอน ก็อาจช่วยให้งานของคุณราบรื่นไปได้เช่นกัน นอกจากนี้คุณยังควรลองเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของตัวเองดูด้วย เช่น การแบ่งเวลาการทำงานกับชีวิตส่วนตัวให้เหมาะสม แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันให้ชัดเจน ใช้ชีวิตมนุษย์เงินเดือนแบบ Work Life Balance และไม่ควรนำเรื่องงานกลับมาเครียดต่อที่บ้านเป็นอันขาด

6. ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด แม้เราจะก้าวเข้าสู่การเป็นมนุษย์เงินเดือนเต็มตัวแล้วก็ตาม แต่เราก็ควรหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาทักษะที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพราะบางครั้งคุณอาจไม่รู้ตัวว่าจริงๆ แล้วสาเหตุที่เบื่องาน อาจเกิดมาจากการติดขัดเรื่องทักษะบางอย่าง จึงอาจทำให้งานที่ทำอยู่ สะดุดไปบ้างในบางครั้ง หากมีโอกาสจึงควรหาเวลาเทคคอร์สเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับงานของตัวเอง หรือหากอยากก้าวไปอีกขั้น ก็ลองเทคคอร์สที่ไม่เกี่ยวข้องกับสายงานตัวเองก็ได้ เพราะเผื่อได้จับผลัดจับผลูได้ย้ายสายงาน จะได้นำทักษะใหม่ๆ ไปปรับเข้ากับงานได้อย่างดีเยี่ยม โดยสมัยนี้มีคอร์สออนไลน์ให้เลือกเรียนมากมาย แถมบางที่ยังฟรีและมีใบประกาศฯ ให้อีกด้วยนะ

7. มองหาความท้าทายในที่ทำงาน
เมื่อคุณกล้าออกจาก Comfort Zone หรือได้ลองเทคคอร์สเพิ่มเติมแล้ว ก็ถึงเวลาเริ่มต้นในการมองหาความท้าทายใหม่ๆ สักที หากยังไม่กล้าพอที่จะย้ายสายงาน ก็ลองปรึกษาหัวหน้าเพื่อขอรับผิดชอบในโปรเจคต์พิเศษหรือชิ้นงานที่ยากขึ้นดูก่อน ไม่อย่างนั้นก็ถามลองเพื่อนร่วมทีมว่าต้องการความช่วยเหลือบ้างไหม เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยพัฒนาทักษะของคุณได้เป็นอย่างดี โดยการลองทำงานใหม่ๆ ที่ยากขึ้นนั้น จะเป็นส่วนช่วยในการกระตุ้นสมองและอารมณ์ของคุณให้รู้สึกตื่นตัวมากขึ้น แถมยังมีส่วนช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ เพิ่มเติม ได้เติบโตในสายอาชีพ ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต เมื่อโอกาสในเลื่อนตำแหน่งมาถึง

8. ค้นหางานอดิเรกใหม่ๆบางครั้งการที่เราเป็นมนุษย์เงินเดือนแบบ Full Time ทำให้เราลืมที่จะมองหาความสุขรอบตัวไปบ้าง เพราะเรามัวแต่โฟกัสอยู่กับงานมากเกินไป จนก่อให้เกิดความเครียด ดังนั้นจึงควรลองที่หางานอดิเรกทำ อาจจะเริ่มต้นจากงานอดิเรกที่คุณเคยทำอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยได้ทำ หรือจะลองค้นหาอะไรใหม่ๆ ทำในเวลาว่างก็ได้เหมือนกัน โดยกิจกรรมที่น่าสนใจ ก็อย่างเช่น การลองเทคคอร์สพิเศษ, การเข้าฟิตเนสหรือคลาสออกกำลังกาย, การเล่นหุ้น, การเยี่ยมนิทรรศการ, การออกไปเดินทางท่องเที่ยว และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นตัวช่วยในการบรรเทาความเครียดได้เป็นอย่างดี

9. อย่ากดดันตัวเอง
ไม่ว่างานที่เรากำลังก้าวเท้าเข้าไปหาจะต้องใช้ทั้งแรงกายและแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เราก็ต้องคอยให้กำลังใจตัวเองอยู่เสมอและมองหาเป้าหมายเพื่อที่จะผลักดันให้ก้าวต่อไป ในขณะเดียวกันเราก็ควรทำใจว่าเราต้องพบกับอุปสรรคและความยากลำบากบ้าง แต่การกดดันตัวเองจนมากเกินไปก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเพราะมันอาจทำให้เราหมดกำลังใจและถอดใจไป ลองใช้การแข่งขันและโอกาสที่ผ่านมาเพื่อเรียนรู้และพัฒนา เลิกบ่นหรือเอาแต่หาข้อเสียที่เกิดขึ้นเพื่อมาบั่นทอนตัวเอง

10. ตั้งเป้าหมาย ลองมองหาสิ่งใหม่
พยายามตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองว่าการที่เราทำงานที่บริษัทนี้ เรามีจุดมุ่งหมายอย่างไร ต้องการให้เส้นทางอาชีพของเราประสบความสำเร็จมากแค่ไหน เพราะทุกๆ เป้าหมายที่เราตั้งไว้ ล้านแล้วแต่เป็นแรงผลักดันให้เราสามารถมีแรงฮึดต่อสู้กับทุกสิ่งอย่างได้เสมอ ซึ่งทุกๆ การตั้งเป้าหมาย อย่าไปคำนึงถึงอุปสรรคที่จะเข้ามา หรือคิดว่าเราไม่สามารถต่อสู้กับปัญหาได้ ขอแค่คุณมีกำลังใจที่ดี และเชื่อว่าความสามารถของคุณไปถึง แค่นี้ก็จะอาจช่วยให้บรรเทาอาการเบื่องานลงได้ แต่สุดท้ายถ้าลองพยายามทุกสิ่งแล้ว ก็ยังเบื่อกับงานปัจจุบันที่ทำอยู่จริงๆ ก็อาจจะต้องถึงเวลามองหางานใหม่ เพราะไม่แน่ใจถ้าได้คุณได้เปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่ๆ เพื่อนร่วมงานใหม่ๆ อาการเบื่องานอาจจะหายไปก็ได้

สรุปวิธีแก้อาการเบื่องาน สำหรับคนกำลังหมดไฟ
อาการเบื่องานนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับมนุษย์เงินเดือนทุกคน อยู่ที่แต่ละคนจะมีความสามารถในการปรับตัวหรือต่อสู้กับอาการนี้ได้มากแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญก็คือ ใครที่ประสบปัญหานี้ ขอให้วิเคราะห์ปัญหานี้ให้ถี่ถ้วน และหาทางออกให้มันอย่างเต็มความสามารถ เพราะอย่างไรเสียถ้าขึ้นว่าเป็นมนุษย์เงินเดือน ยังไงเราก็ไม่มีทางหนีปัญหานี้พ้น แต่เราต้องเรียนรู้ที่อยู่กับมันให้ได้ต่างหากล่ะ

Facebook fanpage : GeeHRM Line@ : 640vtamj Tiktok : GeeHRM Website: GeeHRM

en_USEN