ถ้ารู้สึกกดดันเมื่อต้องทำงานกับคนเก่ง

ความรู้สึกกดดันกับการที่ได้ทำงานในที่ที่แวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนเก่ง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้า ควรจะทำให้รู้สึกมีความสุข แต่หลายคนกลับพบว่าความสุขนั้นหายไป กลายเป็นความรู้สึกกดดัน หรืออึดอัดใจเข้ามาแทนที่ เพราะชอบคิดอยู่ตลอดว่าทำไมถึงมีความสามารถไม่เท่าเขา หาข้อเปรียบเทียบต่าง ๆ ทำให้ทำงานด้วยความรู้สึกเครียด กดดัน รู้สึกว่าทำยังไงก็ดีสู้เขาไม่ได้ เราเก่งไม่พอ และถ้าคุณกำลังเจอปัญหานี้อยู่ เรามาช่วยให้ให้คุณก้าวผ่านมันไปได้กันดีกว่า

ถ้ารู้สึกกดดันเมื่อต้องทำงานกับคนเก่ง

เปรียบเทียบ = กดดัน

การเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ เพราะจิตธรรมชาติของมนุษย์ คือ จิตที่เปรียบเทียบ แต่หลายครั้งเราเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนที่เก่งกว่าและจมอยู่กับมันจนทำให้เกิดความรู้สึกดาวน์ เข้าใจว่าตัวเองด้อยค่า ไม่มีความสามารถ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเรามีแต่แค่ตอนนี้น้อยกว่าเขาเท่านั้นเอง ยังมีคนอีกมากมายในโลกใบนี้ที่เก่งกว่าเรา และอาจจะเก่งกว่าคนที่เรามองว่าเขาเก่งแล้วด้วย เราควรพยายามยอมรับให้ได้ว่าคนเรามีต้นทุนมาไม่เท่ากัน บางทีเขาอาจจะเริ่มเรียนรู้งานมาก่อนเราก็ได้ใครจะรู้ หรือเราอาจจะมีเรื่องบางอย่างที่เก่งกว่าเขาเพียงแต่เราไม่รู้ก็ได้ เราอาจจะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นได้แต่ต้องเปรียบเทียบเพื่อให้เราสู้ไม่ใช่ยอมแพ้ และกดดันตัวเองจนเสียทั้งงานและสุขภาพจิต

ดีใจที่ได้ทำงานกับคนเก่ง

น่าตื่นเต้นนะครับที่คุณได้ทำงานร่วมกับคนที่มีความสามารถหลายคน นี่มันเหมือน The Avengers รวมตัวกันชัดๆ แค่ได้ดูว่าเขาทำงานกันยังไงนี่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากแล้ว คนอื่นๆ อาจจะได้เห็นแค่ปลายทาง แต่นี่คุณได้อยู่ร่วมในกระบวนการตั้งแต่ต้น เห็นเขาโบ๊ะบ๊ะโยนไอเดียกัน เห็นเขาแก้ปัญหากันด้วยวิธีใหม่ๆ โอ๊ย! มัน! กลับกัน ถ้าเราอยู่ในทีมที่รวมเอาคนไม่เก่ง คนไม่อยากทำงาน คนไม่รับผิดชอบ อันนั้นน่ะน่าเสียใจมากกว่า เพราะเราจะไม่ได้เรียนรู้อะไร

กล้ายอมรับว่าไม่รู้ ถามเมื่อไม่เข้าใจ

ไม่มีใครรู้ทุกอย่างบนโลกใบนี้ เพราะฉะนั้นการไม่รู้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่มันจะผิดมากถ้าไม่รู้แล้วเราไม่ถาม จำไว้เสมอว่าถ้าอยากเก่งขึ้น สิ่งแรกคือการยอมรับว่าเรายังไม่รู้ เพราะถ้าเราไม่กล้ายอมรับหรือเรากลัวคนหาว่าเราโง่ เราจะปล่อยให้ตัวเองไม่รู้ต่อไปเรื่อย ๆ ดังนั้นถ้าเราไม่เข้าใจให้ถาม ไม่ต้องแคร์ว่าคนอื่นจะคิดกับเรายังไง โฟกัสที่ตัวเอง คิดไว้เสมอว่าเราจะยอมไม่รู้เพื่อแลกกับความคิดของคนที่ไม่มีผลต่อชีวิตเราอย่างนั้นเหรอ

เปลี่ยนการเปรียบเทียบเป็นพลัง

ถ้าการเปรียบเทียบทำให้เรารู้สึกแพ้ หมดกำลังใจ หรือมีความคิดอยากทำลายคู่แข่ง นั่นหมายความว่าภาวะการเปรียบเทียบของเราเป็นพิษ ลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ ให้การเปรียบเทียบที่เกิดขึ้นทำให้เราพัฒนาตัวเอง เอาความรู้สึกด้อยกว่ามาเป็นพลังเพื่อเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม มองคนที่เก่งกว่าเป็นเหมือนไอดอลที่เราชื่นชม และอยากเป็นให้ได้แบบเขา รวมถึงพยายามเอาชนะคำสบประมาทของคนอื่น แสดงให้พวกเขาเห็นว่าเรามีดีกว่าคำพูดของใคร

คนที่เราเห็นว่าเก่งก็เคยอยู่ในจุดที่ไม่เก่งมาก่อน

ที่เราเห็นว่าเขาเก่งกันจังเลยนั้นเราเห็นแค่ปลายเสี้ยวของภูเขาน้ำแข็ง แต่ที่เราไม่เห็นคือกว่าเขาจะเก่งได้แบบนี้เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง เขาต้องแลกอะไรบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าความเก่งที่เขามีไม่ได้เกิดขึ้นมาในชั่วพริบตา มันผ่านการสั่งสมประสบการณ์ การลองผิดลองถูก การล้มลุกคลุกคลานมาหมด เขาก็ต้องเคยอยู่ในจุดที่ยังไม่เก่งเท่านี้มาก่อนเหมือนกัน แต่ตัวเขาคือหลักฐานให้เราเห็นว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลา ทุกคนก็พัฒนาได้ เราก็พัฒนาได้ในแบบของเรา

เปิดใจรับมุมมองใหม่ ๆ จากคนอื่น

การนั่งวาดรูปอยู่ที่เดิม เราก็จะได้ภาพแค่มุมเดียว เหมือนกันกับการไม่เปิดใจรับความคิดเห็นของคนอื่น เราก็จะได้เห็นความคิดแค่มุมเดียว ดังนั้นออกไปพูดคุยกับเพื่อนหรือคนที่เราไว้ใจเมื่อเรามีปัญหาหนักใจ เพราะทุกคนมีมุมองการใช้ชีวิตที่ต่างกัน และบางทีมุมมองของเขาอาจจะทำให้เราค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนชีวิตเราไปเลยก็ได้ แต่ปัญหาของหลายคนคือไม่กล้าเปิดอกเล่า เพราะรู้สึกอาย ดังนั้นเมื่อใดที่รู้สึกไม่กล้าก็ให้ถามตัวเองว่าจะมัวแต่อายแล้วปล่อยสุขภาพจิตเสียหรือเปล่า

ทำในสิ่งที่ไม่ถนัด เพื่อให้รู้ว่าเราทุกคนมีความเก่งแตกต่างกัน

ลองทำสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัด หรือไม่เคยทำมาก่อน เช่น ถ้าเราไม่เคยเข้าครัวเลยในชีวิต ก็ลองลงคอร์สทำอาหาร หรือถ้าเป็นคนไม่ชอบออกกำลังกาย ให้ลองลงคอร์สมวยดู การได้ทำในสิ่งที่เราไม่ถนัด หรือไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต จะทำให้เราเห็นชัดว่ามีคนที่เก่งในเรื่องต่าง ๆ อีกมากมาย เข้าใจว่าเราทุกคนมีความเก่งแตกต่างกัน และคนเราไม่ได้เก่งไปซะทุกเรื่อง ดังนั้นจงอย่าเอาความเก่งของใครมาเหยียบให้เราจมลง ลองหันมาแข่งกับความกลัว ความอ่อนแอของตัวเองดีกว่า ไม่แน่การลองทำสิ่งใหม่ ๆ อาจจะทำให้เราค้นพบความเก่งของเราก็ได้

ใจดีกับตัวเองบ้าง

การอยากเป็นคนเก่งคือเรื่องน่าชื่นชม แต่ถ้าเราอยากเก่งให้ได้แบบเขาจนกดดันตัวเอง ก็จะเป็นการใจร้ายกับตัวเองมากเกินไป สุดท้ายมันจะกลับมาทำร้ายเราเอง เมื่อเราทำทุกอย่างเต็มที่ ผลลัพธ์จะเป็นยังไงมันก็อยู่เหนือความควบคุมของเราแล้ว ถ้าไม่เป็นแบบที่หวัง ก็อย่าเอาแต่ตำหนิตัวเองเพราะมันไม่มีประโยชน์ เรียนรู้การปล่อยวาง ทำตามใจตัวเอง และหาความสุขให้ตัวเองบ้าง เช่น ไปท่องเที่ยวพักผ่อน นัดสังสรรค์กับเพื่อนรู้ใจ หรือซื้อของขวัญให้ตัวเอง ดอกไม้แต่ละดอกมีความสวยงามเฉพาะตัว คนเราเองก็มีความสามารถเฉพาะตัวเช่นกัน อย่าเปรียบเทียบกับใครจนทำให้ตัวเองรู้สึกไม่มีค่า แต่จงนำข้อแตกต่างมาปรับปรุงและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น แทนที่จะเอาตัวเองไปแข่งกับคนอื่น เปลี่ยนมาแข่งกับความกลัว ความอ่อนแอของตัวเองดีกว่า เราอาจจะชนะบ้าง แพ้บ้าง แต่สิ่งที่สำคัญคือห้ามยอมแพ้ก็พอ แล้ววันนึงเราจะเห็นว่าเราเองก็มีความสามารถและความเก่งอยู่ในตัวเองเหมือนกัน

Facebook fanpage : GeeHRM Line@ : 640vtamj Tiktok : GeeHRM Website: GeeHRM