จบใหม่แต่ไม่มีคนสอนงาน จะเอาตัวรอดยังไงดี ?

จบใหม่แต่ไม่มีคนสอนงาน กับระบบการสอนงานในองค์กร (เกี่ยวกับหน้าที่และเนื้องานของตำแหน่งนั้น) ในบางองค์กรอาจไม่แข็งแรง บวกกับพฤติกรรมพี่เลี้ยงหรือหัวหน้า (บางคน) อาจไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากพอ ส่งผลกระทบต่อพนักงานใหม่ที่อาจต้องหาทางรอดด้วยการลองทำเอง แล้วเมื่อผิดพลาดก็รู้สึกแย่ ทำให้ไม่มีความสุขกับงาน และอยากลาออกทั้งที่เพิ่งเข้าไปได้ไม่นาน แต่ยุคนี้จะให้ออกเลยแล้วมาหางานใหม่มันไม่ง่าย แต่การทำงานก็ไม่ใช่ว่าต้องอดทนอยู่ในที่อึดอัดใจไปตลอด พอให้มีเงินเดือนใช้ ฉะนั้นถ้าเจอแบบนี้ อย่านิ่งเฉย เราต้องเป็นฝ่ายปรับตัวและลุกไปหาเขาก่อน

สิ่งสำคัญคือ อย่าเพิ่งคิดลบ ว่าหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานจะไม่ชอบ ไม่อยากคุยกับเรา

การเข้าไปทำงานช่วงแรก มันอาจยากหน่อย แต่ทุกคนต้องเผชิญครับ ถ้ามัวกลัวไม่เข้าไปสักที เราก็ต้องอยู่กับสถานการณ์แบบนี้ไปเรื่อย ๆ แล้วจะทำงานอย่างไรล่ะ ?

จบใหม่แต่ไม่มีคนสอนงาน จะเอาตัวรอดยังไงดี?

1. หาเพื่อนใหม่ให้เร็ว

เมื่อไม่มีคนคอยแนะนำการทำงานให้เรา สิ่งที่จะช่วยให้เราไม่เสียเวลาไปกับการคลำทางเองคือ เพื่อนร่วมงานที่จะสามารถตอบคำถามเราได้ เพื่อนในทีมเราอาจมีประสบการณ์การฝึกสอนด้วยการจับโยนลงน้ำเหมือนกัน เขาอาจจะเห็นอกเห็นใจเราที่ต้องมาเจอแบบที่เขาเคยเจอมา เขาก็จะเต็มใจยื่นมือเข้ามาช่วยเพื่อให้เราสามารถปรับตัวได้ ดังนั้น เมื่อเข้าไปทำงานวันแรกก็ควรหาเพื่อนโดยการเริ่มบทสนทนาที่เป็นมิตรตั้งแต่แรก

แต่จำไว้อย่างหนึ่งว่า แม้ว่าคนในทีมจะเป็นตัวช่วยที่ดี แต่การช่วยเราตลอดเวลาก็ไม่ใช่งานอะไรของเขา ถึงเขาจะช่วยเราได้บ้าง แต่ก็ไม่มีใครมีเวลามาคอยสอนเราอยู่ตลอด ดังนั้นจึงควรหาเพื่อนให้ได้เยอะๆ และกระจายคำถามไปถามคนอื่นบ้าง สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือควรพัฒนาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานไปพร้อมๆ กับการพัฒนาวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีม

2. ใช้ความพยายามเป็นพิเศษ

หากเราประสบกับการไม่มีคนสอนงานแล้วยังไม่อยากลาออก แต่มีความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมแบบนี้ให้ได้ ก็ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นจนกว่าจะทำงานของตัวเองได้ดี

ซึ่งความพยายามในที่นี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละตำแหน่ง หากตำแหน่งไหนต้องรู้กระบวนการในการทำงานอย่างละเอียด ก็อาจต้องจดบันทึกตลอดทั้งวัน แล้วแบ่งเวลาไปพิมพ์สรุปสิ่งที่เรียนรู้ในแต่ละวัน การใช้เวลาและความพยายามเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์แรกๆ จะทำให้เราเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นและเร็วขึ้นด้วย

3. ถ้าหาอะไรที่ต้องการไม่เจอ ให้ขอความช่วยเหลือ

หลายคนเมื่อเข้าไปทำงานวันแรกแล้วเห็นหัวหน้าสนุกไปกับการประชุมโดยไม่แม้แต่ชำเลืองตามอง เราก็อาจจะมีความคิดที่ว่า “เขารู้ไหมว่ามีพนักงานใหม่เข้ามา?”

แต่แทนที่เราจะอารมณ์เสีย และรอให้หัวหน้าเดินมาถามว่าต้องการอะไรไหม ให้เดินไปขอความช่วยเหลือจากเขาแทน และอย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องน่ากลัวที่จะเดินไปถาม สิ่งสำคัญคือเราต้องคิดว่าตอนนี้เรากำลังเผชิญกับปัญหาในการเรียนรู้งานอยู่

โดยสิ่งที่ถามควรเป็นสิ่งที่เฉพาะเจาะจง เพราะหากเราพูดไปกว้างๆ อย่างเช่น “แล้วตอนนี้ควรทำอย่างไร?” หัวหน้าก็อาจจะไม่รู้ว่าเราต้องการเรียนรู้อะไรบ้าง และเป็นเรื่องยากที่จะชี้แนะแนวทางให้หากถามไปกว้างๆ

4. กล้าเผชิญหน้ากับสิ่งใหม่ๆ

เมื่อต้องเผชิญกับการทำงานวันแรกโดยไม่มีใครสอนงาน คงไม่มีใครกล้าลงมือทำงานใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน เพราะกลัวโดนเจ้านายดุหรือลูกค้าด่า

ระหว่างการรอให้คนอื่นมาช่วยอย่างมีความหวังกับการเผชิญหน้ายอมรับความไม่แน่นอนและกระโดดเข้าไปทำงานใหม่ๆ เลย เราควรเลือกทางไหน? ทางที่ดีคืออย่ากลัวที่จะต้องเผชิญกับงานที่ไม่คุ้นเคย

แต่อย่ารับมือด้วยวิธีที่เกินพอดี เช่น การเสนอคืนเงินเต็มจำนวนให้กับลูกค้าที่กำลังไม่พอใจ โดยไม่รู้นโยบายของบริษัท ให้เปลี่ยนมารับมือแบบวิธีทั่วไปแทน เช่น ก้าวมาข้างหน้าและรับสายลูกค้า หรือรวบรวมรายงานไว้ แม้ว่าอาจจะทำได้ไม่สมบูรณ์เท่าคนที่ทำงานมานาน แต่ก็จะสร้างความประทับใจให้กับทีมมากกว่าการนั่งอยู่เฉยๆ โดยไม่พยายามทำอะไรเลย

5.อธิบายที่มาที่ไปของงาน

ไม่ใช่แค่การอธิบายว่า “ทำอะไร” แต่คนสอนงานต้องไล่เรียงให้เห็นว่า “ทำไปทำไม” เพื่อให้คนทำงานเข้าใจว่าตัวเองกำลังเป็นฟันเฟืองสำคัญของการทำอะไร ทำไมงานนี้ถึงสำคัญ และมีความรับผิดชอบต่ออะไรบ้าง

6.ให้เห็นทั้งภาพรวม

ภาพกว้าง และรายละเอียดการที่จะทำงานให้ดีนั้น คนทำงานก็ต้อง “เห็นภาพ” ของการทำงานกันเสียก่อนว่าภาพใหญ่ของงานคืออะไร มีใครเกี่ยวข้อง มีงานของคนอื่นที่มาเกี่ยวพันอย่างไร เราจะต้องทำงานร่วมกับใครบ้าง เช่นเดียวกับการเจาะลงไปในรายละเอียดว่าจะต้องทำอะไรบ้าง อะไรเป็นจุดที่สำคัญต้องระมัดระวังและควรใส่ใจ

7.อธิบายเป็นขั้นเป็นตอน

ลำดับอย่างเหมาะสมการสอนงานก็ไม่ต่างจากการสอนหนังสือหรือการสอนทักษะอะไรใหม่ ๆ ให้กับคนที่ไม่รู้ นั่นจำเป็นที่คนสอนต้องมีการวางแผนและเรียงลำดับให้ดีว่าควรจะเริ่มให้รู้จักอะไร จากประเด็นไหนไปสู่ประเด็นไหน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ปะติปะต่อเรื่องไม่ได้

Facebook fanpage : GeeHRM Line@ : 640vtamj Tiktok : GeeHRM Website: GeeHRM